เขียนเป็นเรื่องแทรก non-technical ซักเรื่องละกัน เดี่ยวใครมาเห็นเห้ยยย พักนี้ blog active แถมเปิดหัวมาเป็นเรื่อง Mesh Network จะเข้าใจผิดว่าเราดัน Mesh Network เพื่อใช้ในการสื่อสารแบบสุดตัวหรือจะขายอะไรเกี่ยวกับ Mesh Network ยังไม่มีนะครับเหอๆ ถ้าใครเรียนมาทางสายบริหาร หรือทำงานบริหารโครงการอยู่ ชะตาชีวิตคงหนีไม่พ้นกับการถ่วงน้ำหนักระหว่าง 3 สิ่งนี้นั่นก็คือ
- Cost หรือต้นทุนของโครงการ ไม่ว่าจะเป็น Fix Cost / Variable Cost ทั้งหลาย รวมหมด
- Quality/Scope: คุณภาพของสินค้าหรือโครงการ อยากจะเป็นแบบ A+ หรือ AAA ซึ่งรวมถึงพวก SLA ต่างๆด้วย 99.99% หรือเอาแค่ 99.95% Up Time พอรวมถึงขอบข่ายของงานด้วย
- Time: ตัวการใหญ่ เพราะเวลามันซื้อไม่ได้ (แต่ก็อาจจะซื้อได้ในบางเวลาถ้าเงินมากพอ)
โดยทั้งสามสิ่งนี้ถ่วงสมดุลย์กันอยู่ซึ่งเรามักจะเจอเหตุกาณณ์ลักษณะนี้อยู่บ่อยๆ
- ถูกและดี (low cost & high quality) อาจจะมีก็ได้ (ไม่ใช่ร้านอาหารใน Foodland นะ) เพียงแต่ว่า time to market อาจจะไม่ได้ก็ได้เพราะเทคโนโลยีการผลิตเพื่อให้ต้นทุนได้ตามต้องการยังไม่มี หรือว่าเราอาจจะต้องไปรวม lot ในการผลิตสินค้ากับคนอื่นเป็น lot ใหญ่ๆ แต่โดยทั่วไปแล้วหายากครับมักจะเป็น ถูกแต่คุณภาพไม่ได้ หรือ คุณภาพดีแต่ราคาต้นทุนไม่ได้
- ดีและเสร็จก่อนกำหนด (High Quality & Ahead of Schedule) นอกจากดีแล้วยังไม่พอ ยังต้องเสร็จก่อนกำหนดด้วย ทำได้มั้ย ทำได้แน่นอนถ้ามี budget แบบไม่อั้น ในบางสถานการณ์อย่าว่าแต่เสร็จก่อนกำหนดเลย แค่ให้ทันตามกำหนดก็แย่แล้ว ฉะนั้นในการบริหารโครงการก็ต้องดูด้วยว่า ด้วย budget ที่เรามีนั้นสามารถทำได้แค่ไหน บางรายอาจจะทำได้ในส่วนของ เวลา time to market คุณภาพอาจจะไม่ดีนัก เสร็จแล้วค่อยออก version 2 มาที่หลัง
- ต้นทุนต่ำ ส่งมอบก่อนกำหนด ฟังแล้วก็แบบบบ งานโครงการ 10 ล้านนะครับ แค่สรุป requirement ก็เดือนนึงแล้ว เทียบราคา สั่งซื้อ เจรจาต่อรองราคา ปาไปอีกหนึ่งเดือน ของมาส่งใช้ระยะเวลาอีก 1 เดือน แล้วบอกว่าให้ส่งงานภายใน 3 เดือนนน มันจะเป็นไปได้มั้ย
ฉะนั้นในการบริหารโครงการ Project Manager หรือ PM ก็ต้อง balance 3 สิ่งนี้ให้เหมาะสมที่สุด การทำโครงการ บางครั้งเราก็ไม่อาจยึดติดกับตัว Technology ตัวใดตัวหนึ่งมากไปครับ อาจต้องดูก่อนว่าผลลัพท์ที่ได้เราต้องการอะไร และคุ้มค่าในการนำ Technology นั้นมาช่วยหรือ support งานนั้นมั้ย Technology ที่ดีมากๆตัวนึง พอไปอยู่ในอีกสถานการณ์นึง อาจจะทำทั้งโครงการล่ม หรือปิดงานไม่ได้ก็ได้
ถ้าความต้องการของเถ้าแก่ขายกาแฟโบราณ อยากแค่ดูว่าวันนี้ขายไปกี่แก้ว ลูกน้องเก็บตังค์ครบมั้ย คุณไปเสนอระบบ erp ครบวงจร มันก็คงไม่ใช่ แต่ถ้าเถ้าแก่บอกว่าตอนนี้อั้วมีสาขาอยู่ 200 สาขาในกรุงเทพ มีโครงการที่จะขยายสาขาไปทั่วประเทศ เพื่อครองใจคนรักกาแฟโบราณ ต่อสู้กับกาแฟแบรนด์นอกของพวกฟะรังคี อันนี้อาจต้องเริ่มดูรายละเอียดลึกขึ้นละ แค่ excel พอมั้ยประหยัดๆ ซื้อเป็น office365 ก็ได้จ่ายรายเดือนเอาเผื่อเถ้าแก่เปลี่ยนใจก็ไม่ต้องจ่ายต่อ หรือระบบ BI มั้ยเอาอะไรดีหละ PowerBI ก็ได้มั้งชิวๆดูผ่านมือถือได้ไม่กี่บาทก็ใช้งานได้แล้ว หรือว่าจะลง Qlikview เลยดี ต้องทำ Social Analytic ศึกษาพฤติกรรมการกินกาแฟของชาวสยามไปพร้อมกันเลยด้วยมั้ย ซึ่งสุดท้ายแล้ว PM กับ Project Owner หรือลูกค้า ก็ควรมาทำ scope ของงานโดย Balance จาก Project Management Triangle แต่โดยมากที่เจอๆคือ อ๋อออ budget ไม่พอเหรอ งั้นตัด scope นะ หรือ budget มีเท่านี้อะ แต่ขอเนื้องาน 110% นะ อิอิ
